TMA ฉลองครบรอบ 60 ปี จัดสัมมนาความยั่งยืน ร่วมออกแบบอนาคตเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทย


สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (Thailand Management Association : TMA) ฉลองครบรอบ 60 ปี จัดงานสัมมนา “60 YEARS OF EXCELLENCE” ภายใต้แนวคิด “Creating Great Leaders, Designing the Future” เชิญ CEO องค์กรชั้นนำระดับประเทศ ผู้บริหาร Startup ผู้บริหารรุ่นใหม่ พร้อมผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาองค์กรธุรกิจระดับโลกกว่า 70 ท่าน ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมอง ออกแบบอนาคตเพื่อขับเคลื่อนองค์กรและประเทศไทยสู่ความเป็นเลิศ พร้อมบูทนิทรรศการ เวทีแชร์ข้อมูลและองค์ความรู้ใหม่ๆ พร้อมเวิร์คช้อปให้คำปรึกษา ระหว่างวันที่ 16 – 19 กันยายน 2567 ณ บอลรูม ฮอลล์ 1- 3 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

นิธิ ภัทรโชค

นิธิ ภัทรโชค ประธานสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA ) เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 60 ปี TMA เป็นองค์กรที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ในฐานะสถาบันการพัฒนาการจัดการ และชุมชน ชั้นนำ ที่มุ่งเน้นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในทุกระดับ เรามีส่วนร่วมอย่างมากในการสร้างผู้นำองค์กรที่ยิ่งใหญ่ ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ งานสัมมนา เวิร์กช็อป และโปรแกรมฝึกอบรมมากมาย รวมไปถึงทริปดูงานต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมให้ผู้บริหารระดับต่างๆ ได้พัฒนาทักษะความเป็นผู้นำ เพิ่มพูนความรู้ ขยายมุมมอง รวมถึงได้สร้างเครือข่ายเพื่อต่อยอดธุรกิจ และพัฒนาองค์กรสู่ความเป็นเลิศ

“ สำหรับงาน 60 YEARS OF EXCELLENCE ในครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด Creating Great Leaders, Designing the Future โดยเน้นหัวข้อที่มีความสำคัญและเป็นเมกะเทรนด์ของโลก ทั้งเรื่องการเชื่อมโยง (Connectivity) ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและนวัตกรรม และความยั่งยืน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้องค์กรต่างๆ ได้เปิดรับมุมมองใหม่ๆ รับรู้ถึงความเสี่ยงที่อาจส่งผลต่อธุรกิจ มีการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้และทักษะที่เหมาะสม พร้อมรองรับอนาคต  ที่ผ่านมา เราสร้างผู้นำเก่งๆ มาหลายแสนคน และจากนี้ไป เราต้องการให้ผู้นำและผู้บริหารคนรุ่นใหม่มีวิสัยทัศน์และองค์ความรู้ที่ครอบคลุม สามารถออกแบบอนาคตและกำหนดทิศทางธุรกิจได้ในระยะยาว เพื่อให้องค์กรสามารถเติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืน ซึ่งจะช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้ดีขึ้นด้วย” นิธิ กล่าว

งาน 60 YEARS OF EXCELLENCE เป็นมหกรรมงานประชุมด้านการพัฒนาการบริหารจัดการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 60 ปีของ TMA ประกอบด้วยกิจกรรม 2 ส่วนหลัก คือ งานสัมมนา และกิจกรรมในโซน WISDOM HALL ดังต่อไปนี้

  1. งานสัมมนา ในวันที่ 16 กันยายน 2567 ประกอบด้วยหัวข้อ “Towards the Prosperous ACMECS” การส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง อย่างยั่งยืน  และหัวข้อ “Boundless Growth with Green Supply Chain” การยกระดับธุรกิจให้ก้าวข้ามพรมแดนและทุกอุปสรรคด้วยกรีนซัพพลายเชน  วันที่ 17 กันยายน 2567 หัวข้อ “Building a Competitive Nation” การเพิ่มขีดความสามารถและสร้างความพร้อมในการแข่งขันในระดับโลก วันที่ 18 กันยายน หัวข้อ “The Future of Sustainable Growth” การสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต เมื่อธุรกิจและโลกต้องสอดประสานกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อความอยู่รอดและเติบโตและวันที่ 19 กันยายน ในหัวข้อ “The Digital Imperative” ความสำคัญของเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่ออนาคต แนวโน้มการทำงานร่วมกันระหว่างคนและ AI รวมไปถึงการสร้าง Trust ในโลกที่แยกแยะความจริงและสิ่งเสมือนออกได้ยากขึ้นทุกที

    TMA ฉลองครบรอบ 60 ปี จัดสัมมนาความยั่งยืน ร่วมออกแบบอนาคตเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทย
    TMA ฉลองครบรอบ 60 ปี จัดสัมมนาความยั่งยืน ร่วมออกแบบอนาคตเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทย

  2. กิจกรรมในโซน WISDOM HALL แบ่งเป็นเวทีย่อยแชร์องค์ความรู้ใหม่ ๆ โดยวิทยากรชั้นนำจากทั้งไทยและต่างประเทศ อาทิ การใช้ Gen AI สร้างแต้มต่อการแข่งขันสำหรับ SMEs,  ถอดบทเรียนผู้ชนะ รางวัล SME Excellence Awards 2022-2023, Business Transformation by Technology and Innovation, Future Design, Nordic Leadership และการเวิร์กช้อปในหัวข้อต่างๆ อาทิ Smart Factory – Factory of the Future โดย SFN AG จากสวิตเซอร์แลนด์, การสร้างกลยุทธ์สำหรับ Innovation-Driven Enterprises, Building Pathways for Transformation โดย Kök Projekt จากตุรกี รวมถึงบูทจัดแสดงนวัตกรรมขององค์กรชั้นนำจากภาครัฐ ภาคเอกชน ทั้งไทยและต่างประเทศ กว่า 40 ราย อาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงไทย, เอสซีบีเอ็กซ์, บางจาก, ไทยเบฟเวอเรจ, บี.กริม เพาเวอร์, เบทาโกร, อินโดรามา เวนเจอร์ส, คูโบต้า, เบอร์ลี่ ยุคเกอร์, ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม, สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) เป็นต้น

หนึ่งในหัวข้อสัมมนาที่น่าสนใจ “Boundless Growth with Green Supply Chain” การยกระดับธุรกิจให้ก้าวข้ามพรมแดนและทุกอุปสรรคด้วยกรีนซัพพลายเชน โดย โทมัส ลอยดิ Senior Partner Bian Southeast Asia กล่าวว่า ภายในปี 2030  Green Logistics จะเป็นหัวใจหลักของเทรนด์พื้นฐานที่เชื่อว่าหลายๆ บริษัทไม่ควรพลาด จากตัวอย่างของบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคที่เป็นผู้นำในเรื่องนี้ และมีบริษัทใหม่ๆ ที่ได้พัฒนาวิธีการเฉพาะตามเทรนด์นั้นๆ ด้วยข้อมูลแบบเรียลไทม์และความสามารถในการตรวจสอบย้อนกลับที่มีในอยู่ปัจจุบัน ทำให้มีเครือข่ายคลังสินค้าที่กระจายตัวอย่างมีประสิทธิภาพสูงสามารถให้บริการลูกค้าได้ในระดับที่สูงขึ้น แต่ยังคงดำเนินการด้วยระดับทุนหมุนเวียนที่ต่ำ ไร้การขาดสต็อกสินค้า และมีการส่งมอบสินค้าระยะสุดท้ายโดยใช้รถขนส่งที่เดินทางน้อยลงแต่บรรทุกสินค้าได้เต็มที่ นั่นคือสิ่งที่บริษัทอย่าง PHE ได้ทำสำเร็จโดยการดูเครือข่ายที่ซับซ้อน ลดระดับสินค้าคงคลัง เพิ่มประสิทธิภาพ และลดระยะทางที่รถขนส่งต้องวิ่ง ขณะเดียวกันก็ยังมุ่งลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนอีกด้วย

ขณะที่เครื่องมือทางเทคนิคต่างๆ เช่น ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ และคลังสินค้าที่ทำงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบ สามารถผสมผสานเข้ากับโซลูชันเทคโนโลยีแบบบูรณาการและระบบอัตโนมัติ โดยเฉพาะในภาคการค้าปลีก ช่วยให้สามารถสร้างประสิทธิภาพและประหยัดต้นทุนอย่างมากในระบบ อาทิ การใช้ Digital Twin เพื่อจำลองการทำงานของเครือข่ายและปรับแต่งอย่างต่อเนื่องในแบบเรียลไทม์เพื่อปรับปรุงเครือข่ายการกระจายสินค้ากำลังเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น ปัจจุบันมีหลายบริษัทที่เริ่มใช้  แต่ยังคงอีกไกลกว่าจะเป็นโซลูชันที่ทุกคนสามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวัน

Walmart จึงเป็นตัวอย่างที่ดีในการใช้พันธมิตรในระบบนิเวศเพื่อสร้างเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสูงและต้นทุนต่ำ ส่งผลให้ผู้นำหลายบริษัทด้านโลจิสติกส์สีเขียวเริ่มต้นแก้ปัญหาโดยตั้งคำถามว่าพวกเขาจะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้หรือไม่ ตัวอย่างเช่น Nest ได้เปลี่ยนการขนส่งจากถนนไปสู่รางรถไฟ ทำให้ลดการปล่อยคาร์บอนลงได้อย่างมาก นอกจากนี้ยังใช้เชื้อเพลิงชีวภาพในสัดส่วนที่สูงกว่าที่กฎหมายกำหนด และบริษัทอาหารชื่อดังอย่าง Mondelez ได้เปลี่ยนคลังสินค้าให้ใช้พลังงานหมุนเวียนด้วยการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนคลังสินค้า ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งกับเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่กำลังก้าวหน้า เช่นเดียวกับ Coca-Cola ที่ได้ทำการทดลองใช้รถบรรทุกไฟฟ้าในเบลเยียม แม้ว่ารถบรรทุกไฟฟ้ายังไม่ใช่ทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในขณะนี้ก็ตาม แต่เชื้อเพลิงเซลล์น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในอนาคต


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เอง โดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save