“TIPMSE” เปิดเวที “PROVE: The Journey to EPR Thailand” หนุนองค์กรรัฐ – เอกชนเตรียมพร้อมสู่ EPR ก่อนกฎหมายบังคับใช้ปี’ 70


สถาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์และรีไซเคิลเพื่อสิ่งแวดล้อม (TIPMSE )  สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเวทีสัมมนา “PROVE: The Journey to EPR Thailand ” นำสมาชิกเครือข่ายภาครัฐ กรมควบคุมมลพิษ และภาคเอกชน กว่า100 องค์กร สร้างระบบนำบรรจุภัณฑ์หลังบริโภคกลับมาหมุนเวียนใช้ใหม่ตามภาคสมัครใจ  โดยเปิดทางผู้ประกอบการทุกกลุ่ม ได้เตรียมพร้อมเข้าร่วมขยายเครือข่าย EPR (Extended Producer Responsibility)  ก่อนที่พ.ร.บ.การจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน จะมีผลบังคับใช้ ในปี 2570

ธงชัย ศิริธร

ธงชัย ศิริธร รองประธานสถาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์และรีไซเคิลเพื่อสิ่งแวดล้อม  (TIPMSE ) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การเปิดเวทีร่วมกับภาครัฐและเครือข่ายในครั้งนี้ เพื่อสื่อสารและสร้างโอกาสในการเข้าร่วมขับเคลื่อน EPR  โดยมีช่องทางและวิธีการเข้าร่วมได้หลายรูปแบบตามสนใจ  ซึ่งปัจจุบันภาครัฐอยู่ระหว่างการพัฒนากฎหมาย EPR จึงเป็นเวทีที่สำคัญที่เปิดให้สมาชิกและเครือข่าย ได้ทดลองดำเนินการตามหลัก EPR แบบภาคสมัครใจ ก่อนเข้าสู่ภาคบังคับ คาดว่าจะมีผลในปี 2570

การดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา องค์กรหลายภาคส่วนได้ร่วมกันพัฒนาโมเดล  โดย TIPMSE ร่วมกับภาคเอกชนได้ทำโครงการนำร่องที่นำหลัก EPR ให้ชุมชนมีส่วนร่วม ในโครงการ PackBack เก็บกลับบรรจุภัณฑ์เพื่อวันที่ยั่งยืนขึ้นในจังหวัดชลบุรี ซึ่งเริ่มจาก 3 เทศบาลและขยายผลอีก 11 เทศบาลในปี 2567 เพื่อพัฒนาโมเดลที่สอดรับกับบริบทและกิจกรรมของแต่ละพื้นที่  นับเป็นความก้าวหน้าการพัฒนารูปแบบจัดเก็บบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้เกิดเป็นแนวทางและขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ ไปพัฒนารูปแบบของพื้นที่ตนเอง

ทวีชัย เจียรนัยขจร

ทวีชัย เจียรนัยขจร ผู้อำนวยการส่วนลดและใช้ประโยชน์ของเสีย กองจัดกการกากของเสียและสารอันตราย กรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า สำหรับแผนการขับเคลื่อน EPR ด้านบรรจุภัณฑ์ของประเทศไทย ภาครัฐโดยกรมควบคุมมลพิษ เล็งเห็นถึงความสำคัญ EPR มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมองว่ายังคงเป็นแรงกดดันจากประชาคมโลกในเรื่อง Plastic Pollution Treaty ที่มีกลไกล EPR ภาคบังคับ พร้อมทั้งการผลิตบรรจุภัณฑ์จาก Primary Materials ยังส่งผลกระทบต่อการเกิด Carbon Footprint ได้สูงกว่า Secondary Materials ขณะที่ภาครัฐมีแผนการขับเคลื่อนระยะที่2 ในปี 2566-2570 ในด้านมาตรการการจัดการขยะพลาสติกผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมร่วมกับเอกชนมาอย่างต่อเนื่อง โดยสนับสนุนให้ Brand Owner ได้มีการใช้ PCR เป็นส่วนผสมของบรรจุภัณฑ์มากยิ่งขึ้น พร้อมกำหนดปรับปรุงและเสนอร่าง พ.ร.บ.การจัดการบรรจุภัณฑ์ 6 หมวด (66 มาตรา) คือ 1) นโยบายด้านการส่งเสริมการจัดการบรรจุภัณฑ์ 2) การบริหารจัดการบรรจุภัณฑ์ 3) การจัดการบรรจุภัณฑ์ 4) แผนจัดการบรรจุภัณฑ์ 5) การตรวจสอบและควบคุม และ 6) บทกำหนดโทษ  คาดว่าปี 2570 จะเป็นจุด Start ขับเคลื่อนแผนEPR ได้อย่างแน่นอน

PROVE: The Journey to EPR Thailand

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความเข้าใจในการนำหลัก EPR ไปพัฒนาธุรกิจ ได้เปิดให้ผู้ประกอบการมาร่วมเรียนรู้กระบวนการทำงานตามหลัก EPR เพื่อเตรียมความพร้อม ในการพัฒนาองค์กร เข้าสู่หลัก EPR  ผ่านเวทีสัมมนากลุ่มย่อย 4 สถานีเรียนรู้เส้นทางการเข้าร่วม EPR    จับมือรวมพลังผลักดัน EPR ภาคสมัครใจ  โดยสาระสำคัญของห้องสัมมนาประกอบด้วย

สถานี  Recap EPR Policy: จับประเด็นกฎหมาย EPR  ผู้ร่วมสัมมนา จะได้รับทราบความก้าวหน้าร่างกฎหมาย ที่จะประกาศเป็น พ.ร.บ. การจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน ที่กำหนดให้นำหลักการขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิต เข้ามาร่วมรับผิดชอบบรรจุภัณฑ์ ภายหลังจากการอุปโภคบริโภคของประชาชน

สถานี Reset Infrastructure: ปรับโครงสร้างขับเคลื่อน EPR   อัปเดตการปรับและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เริ่มจาก จุดรับบรรจุภัณฑ์ใช้แล้ว(drop off point) , ระบบขนส่งและจัดเก็บ, ระบบคัดแยกปลายทาง (MRF : Material RecoveryFacility ที่อาจต้องอาศัยความร่วมมือทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน ที่ผ่านมาภาคเอกชนได้ดำเนินโครงการเก็บกลับบรรจุภัณฑ์ใช้แล้ว ควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็น โครงการ Smart Recycling Hub, โครงการมือวิเศษคุณวน, โครงการ REBOX, โครงการ ข.ขวดหมุนเวียนเป็นขวดใหม่, โครงการ Becare เก็บกล่องสร้างบ้าน

สถานี Reinvent with Recycle: เปลี่ยนดีไซน์สู่ความยั่งยืน    เน้นการนำเสนอการออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อการรีไซเคิลได้ง่าย D4R หรือ Design for Recycle เพื่อเปลี่ยนให้บรรจุภัณฑ์สามารถเก็บกลับมาเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้มากที่สุด  ซึ่งมีนักวิชาการ ภาครัฐ รวมถึงต่างประเทศได้จัดทำแนวทาง D4R ไว้หลากหลายรูปแบบ ทั้งคู่มือของ WPO (World Packaging Organization) หรือข้อตกลงร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการ THAI RKSHOP AGREEMENTข้อตกลงร่วม 4004-2566 ซึ่งไม่เพียงตอบโจทย์เรื่อง EPR ยังส่งเสริมให้เกิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างเป็นรูปธรรมในประเทศไทยอีกด้วย

สถานี Reignite EPR Voluntary Action : จับมือรวมพลังผลักดัน EPR ภาคสมัครใจ  โดยสถานีนี้ จะมีโอกาสในการร่วมทดลองเก็บกลับบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วตามแนวทาง EPR ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งของ PROVE และเตรียมความพร้อมสู่ภาคบังคับ เพราะท้ายที่สุดแล้ว การเก็บกลับบรรจุภัณฑ์ใช้แล้ว  ต้องเป็นความรับผิดชอบทุกภาคส่วนตามแนวทาง EPR  ทั้งผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ผู้บริโภค องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งโรงงานรีไซเคิลเพื่อให้เกิดการเก็บกลับครบวงจร (Closed Loop Packaging) โดยจะดำเนินงานในช่วงเตรียมความพร้อมสู่ การดำเนินงานภาคบังคับต่อไป

PROVE: The Journey to EPR Thailand

ที่ผ่านมา ทุกภาคส่วนมีความตื่นตัวที่ร่วมกัน ในการขับเคลื่อน  Voluntary EPR โดยมีองค์กรเข้าร่วมแสดงเจตจำนงเพิ่มเติมรวมทั้งสิ้น 100 องค์กร และยังมีการประกาศความร่วมมือของ 4 องค์กรภาคีได้แก่ PPP Plastics, PRO Thailand Network ,Aluminium Closed Loop Packaging System (Al Loop) และ TIPMSE PackBack และรวมถึง Collector รายใหญ่ที่พร้อมสนับสนุนอย่าง TBR หรือ SCGP ซึ่งต่างมีโครงการที่จะช่วยผลักดันและสนับสนุนกลไก EPR ให้เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เอง โดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save