บีสโปคเปิด KANA Pure Dispensary จำหน่ายกัญชาเกรดพรีเมียมใช้ทางการแพทย์ สาขาแรกในไทย รับเทรนด์สุขภาพ


เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท บีสโปค ไลฟ์ ไซเอนซ์ จำกัด (“บีสโปค”) ในเครือบริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (“บูทิค”) เปิดตัวกัญชาแบรนด์ KANA (คณา) และ KANA Pure Dispensary (คณา เพียว ดิสเพนซารี่) สาขาแรกในไทยอย่างเป็นทางการ ณ โรงแรม Jono Bangkok Asoke สุขุมวิท 16 ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายดอกกัญชาเกรดพรีเมียมที่เลือกใช้ในทางการแพทย์ ผ่านการคัดสรรกัญชาคุณภาพสูงจากแปลงปลูกของบริษัทฯ เพื่อใช้ทางด้านสุขภาพและแพทย์แผนไทย

โดย KANA ให้ความสำคัญกับคุณภาพของกัญชาด้วยมาตรฐานขั้นสูงสุด เริ่มต้นจากโรงปลูกกัญชาที่ทางบีสโปคร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา วิทยาเขต (น่าน) ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งเป็นระบบปิดแบบสมบูรณ์ที่ควบคุมสารอาหารเพื่อการเจริญเติบโต ควบคุมปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นส่วนสำคัญในการสังเคราะห์แสง รวมถึงควบคุมปริมาณแสงให้เหมาะสมในแต่ละช่วงการเจริญเติบโตของพืชกัญชา

นอกจากนี้ ยังควบคุมปริมาณและคุณภาพของสารอาหาร น้ำ ลม รวมไปถึงพิถีพิถันในทุก ๆ ขั้นตอนการปลูก การเก็บเกี่ยว การเก็บรักษา ในระดับ Medical Grade เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีสารปนเปื้อน เชื้อรา สารก่อมะเร็ง หรือแมลงต่าง ๆ ทำให้ได้กัญชา 15 สายพันธุ์ที่มีประสิทธิภาพสูงระดับโลก


สำหรับดอกกัญชาของ KANA ทั้ง 4 เกรด ประกอบด้วย 1. Super diamond 2. Diamond 3. Platinum และ 4. Gold ซึ่งได้รับการรับรองความปลอดภัยสูงสุด ไร้สารตกค้างตามมาตรฐาน Central Lab และยังได้รับการพัฒนาในรูปแบบดอกไม้แห้ง รวมถึงน้ำมันและแคปซูล ที่ได้มีการพัฒนาร่วมกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เพื่อเพิ่มตัวเลือกที่หลากหลายให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งช่วยรักษาอาการของโรคต่าง ๆ ได้ เช่น โรคนอนไม่หลับ โรคเครียด โรควิตกกังวล โรคพาร์กินสัน และโรคมะเร็ง เป็นต้น นอกจากนี้ แต่ละรูปแบบยังมีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของกัญชาแต่ละสายพันธุ์เพื่อสร้างความผ่อนคลายให้แก่ผู้ใช้อีกด้วย


ปรับ ทักราล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BC) กล่าวว่า ด้วยเทรนด์สุขภาพ และตลาดกัญชาที่กว้างมากในประเทศไทย (Blue Ocean) เราจึงเปิดตัว Kana Pure Dispensary สาขาแรกในไทย เพื่อนำผลิตภัณฑ์กัญชาที่มีคุณภาพ และปลอดภัย เสนอเป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภค ในการดูแลสุขภาพด้วยวิถีธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี และสิ่งปนเปื้อน โดยมีแผนที่จะเปิด KANA Wellness Clinic (คณา เวลเนส คลินิก) ในสถานที่สำคัญทั่วกรุงเทพฯ ภายในปีนี้ เริ่มต้นที่โครงการ ซัมเมอร์ พ้อยท์ พระโขนง บนพื้นที่ 200 ตรม. เปิดให้บริการในเดือนสิงหาคม เพื่อให้บริการปรึกษาและจ่ายยาตามตำรับแพทย์แผนไทยที่มีกัญชาเป็นส่วนประกอบ อาทิ น้ำมันกัญชา สูตรอาจารย์เดชา โดยพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ยาแก้ลมขึ้นเบื้องสูง ช่วยแก้ปัญหาไมเกรน และยาแก้ลมเนาวนารีนาโย ช่วยแก้ปัญหากล้ามเนื้อ และออฟฟิศซินโดรม พร้อมมีแพทย์แผนไทยที่จะช่วยอธิบายเกี่ยวกับยา ตามด้วยสาขาสุขุมวิท 11 โนโวเทล เชียงใหม่นิมมาน ป่าตองและหาดกมลา เพื่อต่อยอดธุรกิจสุขภาพและกัญชาให้สอดคล้องกับแผนการธุรกิจของกลุ่มบูทิค ซึ่งครอบคลุมทั้งอสังหาริมทรัพย์ ออฟฟิศให้เช่า พื้นที่การพาณิชย์ รวมถึง CannaThai420 ซึ่งเป็นคอมมูนิตี้ด้าน NFT เกี่ยวกับกัญชาและงานศิลปะบนบล็อกเชน Ethereum อีกด้วย

สำหรับกลุ่มเป้าหมายของ KANA คือ 1.กลุ่มที่สนใจผลิตภัณฑ์ แต่ไม่มีความรู้มากพอ เน้นกลุ่มใหม่ 2.กลุ่มที่ใช้ดอกกัญชาผสมในอาหาร ต้องการดอกกัญชาที่มีคุณภาพ High Grade เช่น น้ำมันกัญชา ซึ่งกลุ่มนี้มีความสำคัญมาก 3. คนที่มีปัญหาการนอนหลับ ตั้งแต่อายุ 30-80 ปี โดยพัฒนา Natural Solution เช่น น้ำมันกัญชา เป็นต้น และ 4.กลุ่มนักท่องเที่ยว ที่เห็นประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้าน Cannabis Wellness

“ตลาดกัญชายังเป็นเรื่องใหม่ เรามีความห่วงใย และใส่ใจผู้บริโภคที่มองหาผลิตภัณฑ์คุณภาพจากกัญชาที่ไว้ใจได้และถูกต้องตามมาตรฐานสากล เราต้องการให้ผู้บริโภคเข้าใจแบรนด์ KANA เร็วที่สุด โดยมุ่งเน้นการให้ความรู้แก่ผู้บริโภคในการใช้กัญชาอย่างถูกวิธี เนื่องจากกัญชามีประโยชน์มาก หากใช้ถูกต้อง เพราะสามารถรักษาโรคพาร์กินสัน โรคมะเร็งหลังจากผู้ป่วยให้คีโม ช่วยให้นอนหลับสนิท” ปรับ กล่าว

ด้านจักกฤช ศิริกันตราภรณ์ กรรมการบริหาร บริษัท บีสโปค ไลฟ์ ไซเอนซ์ จำกัด กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากการปลดล็อกกัญชงและกัญชาในไทยเพื่อใช้ในทางการแพทย์ บีสโปคจึงมุ่งมั่นที่จะผลิตกัญชาเกรดพรีเมียมสู่ตลาดไทย โดยการเปิด KANA Pure Dispensary เพื่อจำหน่ายดอกกัญชาเกรดพรีเมียมที่ใช้ในทางการแพทย์ ภายใต้ความร่วมมือของเรากับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา วิทยาเขตน่าน (RMUTL) ทั้งในด้านการวิจัย การเพาะปลูก และการเติบโตของต้นกัญชา โดยนำเข้าเมล็ดพันธุ์ 398 เมล็ด จาก 41 สายพันธุ์จากประเทศฮอลแลนด์ เพื่อเฟ้นหาแม่พันธุ์กัญชาเกรดพรีเมียม ขณะนี้มีต้นกัญชา 9,500 ต้นบนพื้นที่ 6 ไร่ ซึ่งลงทะเบียนปลูกต้นกัญชาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อพัฒนากัญชา การผลิตยา เพื่อการแพทย์แผนไทยต่อไป โดยผลิตภัณฑ์จากกัญชาของเรา ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยา (FDA) หลายฉบับ

“เราปลูกกัญชาระบบปิด ควบคุมสภาพแวดล้อม 100% กึ่ง Smart Farming เนื่องจากธรรมชาติของกัญชาสามารถดูดซับสารในดิน มาอยู่บนดอกได้อย่างดี เป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศไทยมีการปนเปื้อนของสารตะกั่วค่อนข้างมาก โดยควบคุมอุณหภูมิ แสง และให้น้ำระบบการกรองน้ำ R.O. (Reverse Osmosis) อีกทั้งยังผ่านการทดสอบคุณภาพจาก Central Lab ในไทย” จักกฤช กล่าว

สำหรับผลิตภัณฑ์กัญชาของบริษัทฯ มี 3 สายพันธุ์หลัก คือ

  1. Sativa ทำให้ผ่อนคลายและบรรเทาอาการปวดศีรษะ
  2. Indiga ช่วยให้หลับลึก ตื่นมาแล้วสดชื่น และ
  3. Hybrid ช่วยทั้งการตื่นและนอนหลับ บรรเทาอาการปวดเมื่อย และคลายกล่ามเนื้อ

 

 


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เอง โดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save